ไปตีกอล์ฟที่ไหนดี? สนามกอล์ฟ Vs ไดร์ฟกอล์ฟ

ข้อแตกต่างระหว่างไดร์ฟกอล์ฟกลางแจ้งและในร่ม และควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับคุณ

สำหรับมือใหม่ที่กำลังมองหากิจกรรมตีกอล์ฟหรือไดร์ฟกอล์ฟสนุก ๆ และยังสงสัยว่าสนามไดร์ฟกอล์ฟกลางแจ้งกับสนามไดร์ฟกอล์ฟในร่มแตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกแบบไหนดี? หากเป็นมือใหม่เลือกตีสนามกอล์ฟกลางแจ้งจะเหมาะหรือไม่ หรือเรียนกอล์ฟแบบใดจะเหมาะสำหรับคนเริ่มต้น? รวมถึงการค้นหาสนามไดร์ฟกอล์ฟละแวกกรุงเทพฯ ที่เดินทางง่ายและสะดวก ลองมาดูรายละเอียดกัน

สนามกอล์ฟกลางแจ้ง

สนามกอล์ฟกลางแจ้งมักเห็นทั่วไปโดยจะมีพื้นที่ในการเล่นค่อนข้างมาก สนามกอล์ฟโดยทั่วไปจะมี 18 หลุม และ 72 พาร์ พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่สีเขียวซึ่งมีทั้งที่ใช้หญ้าจริงและหญ้าเทียมในการสร้างสนามกอล์ฟ พื้นที่ส่วนนี้เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีพื้นฐานการตีกอล์ฟระดับกลางไปจนถึงระดับมือโปรฯ ที่เตรียมลงแข่งขันหรือมีประสบการณ์สูงแล้ว และสนามกอล์ฟบางแห่งยังมีบริการอื่น ๆ ที่ครอบคลุมนอกเหนือจากกิจกรรมสำหรับการตีกอล์ฟที่รองรับสมาชิกอีกด้วย

ข้อดีของสนามกอล์ฟ คือ มีพื้นที่หญ้าจริงให้ได้ลองตีและสัมผัสกับธรรมชาติ ในสนามกอล์ฟจะมีควรแต่งกายให้เหมาะสม และจะมีแคทดี้คอยช่วยเหลือเมื่อต้องการไปพื้นที่อื่น ๆ ในสนาม ขับรถในสนาม รวมถึงเรื่องความปลอดภัย เทคนิคและจังหวะในการตีเช่นกัน 

นอกจากนี้การตีกอล์ฟที่สนามจริง ยังได้ประสบการณ์ในการลงสนาม ได้สัมผัสการขับรถกอล์ฟออกรอบ เห็นองศาลูกกอล์ฟพุ่งขึ้นฟ้า และธรรมชาติโดยรอบของสนาม ลมและสภาพอากาศจริงที่เกิดขึ้นในแต่ละวันที่อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนการตีกันเล็กน้อยตามสถานการณ์ 

สนามไดร์ฟกอล์ฟในร่ม

สำหรับใครที่เบื่อบรรยากาศการตีกอล์ฟแบบเดิมหรือเป็นมือใหม่ ลองเลือกเป็นสนามไดร์ฟกอล์ฟแบบในร่มดูบ้าง ส่วนใหญ่จะมีเทคโนโลยีหรือโปรแกรมเข้ามาช่วยวางลูก หรือวิเคราะห์วงสวิงในการฝึกซ้อมหรือการเรียนกอล์ฟ เพื่อให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น การไดร์ฟกอล์ฟในร่มจะเป็นการจำลองสนามจริงและใช้พื้นที่ไม่เยอะ เหมาะสำหรับผู้ที่มาฝึกซ้อมหรือเรียนกอล์ฟ เนื่องจากการไดร์ฟกอล์ฟประเภทนี้จะช่วยให้เรารู้จักวงสวิงของเรามากขึ้นผ่านการดูค่าต่าง ๆ เช่น มีการตีรูปแบบใด ตีลูกเปิดหรือปิดหน้าไม้ขนาดไหน หรือตี inside out หรือไม่ 

สนามไดร์ฟกอล์ฟแบบในร่มจะมี 2 แบบคือ

1. สนามไดร์ฟแบบ Driving Range
   สนามฝึกซ้อมกอล์ฟ โดยมีตาข่ายขึงล้อมรอบ และมีช่องตีหลายช่องที่สามารถรองรับการซ้อมของนักกอล์ฟได้หลาย ๆ คนพร้อมกัน ข้อดีของการใช้สนามแบบนี้ในการฝึกซ้อมคือสะดวกและสามารถไปเล่นได้ในหลายโอกาส ตีลูกได้ไกล ฝึกฝนได้ตามที่ต้องการและเวลายืดหยุ่น เนื่องจากเป็นสนามแบบในร่มจึงสามารถตีกอล์ฟได้แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาค่ำ และยังมีข้อดีเรื่องสภาพอากาศที่อาจแปรปรวนช่วงนี้ การใช้สนามไดร์ฟประเภทนี้ยังปลอดภัยต่อสภาพอากาศ เพราะมีหลังคาของสนามไดร์ฟ รวมถึงพื้นที่ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเครื่องจำลองการเล่นกอล์ฟที่มีการวิเคราะห์ทางเทคนิคพร้อมคำแนะนำอีกมากมายที่เป็นประโยชน์ในการฝึกสกิลของคุณให้ดีขึ้นด้วย
   
   
2. สนามไดร์ฟแบบ Golf Simulator
   สนามแบบในร่มที่เน้นใช้เครื่องมือจำลองสนาม ตามสนามไดร์ฟกอล์ฟในร่มจะมีเครื่องมือและเทคโนโลยีพวกนี้ที่ช่วยให้คุณอ่านค่าต่าง ๆ ได้อย่าง real time ลักษณะจะเป็นการตีในร่มและมีจอเพื่อดูวิถีการตีแบบจำลอง และวิเคราะห์การตีของคุณได้อย่างแม่นยำ ข้อดีคือถึงแม้จะไม่ได้สัมผัสบรรยากาศจริงแต่สนามไดร์ฟกอล์ฟบางแห่งสามารถออกรอบได้เป็น 100 สนามทั่วโลกเพื่อได้ความสมจริงระหว่างฝึกไดร์ฟหรือเรียนกอล์ฟเพิ่มมากขึ้น

   ข้อดีในการไดร์ฟกอล์ฟในร่ม คือทำให้มีสมาธิในการตีลูกหรือการเรียนมากขึ้นกว่าเดิม และเวลาในการตีที่ยืดหยุ่นแม้จะเป็นช่วงกลางคืน เนื่องจากนักกอล์ฟส่วนใหญ่ที่ออกสนามจริงอาจมีข้อกังวลว่าสภาพอากาศหรือบรรยากาศโดยรอบที่น่าสนใจอาจทำให้สมาธิหลุดช่วงที่ต้องโฟกัสองศาในการตีลูกได้ เป็นสิ่งเร้าเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจทำให้เสียสมาธินั่นเอง แต่หากเป็นการตีกอล์ฟแบบไม่ทางการก็ไม่มีปัญหาเพราะสุดท้ายอาจเป็นการตีกอล์ฟทั้งแบบในร่มและกลางแจ้งเพื่อฝึกและไปลงสนามไดร์ฟจริง

หากสรุปภาพรวมแล้ว จะเห็นข้อแตกต่างระหว่างสนามไดร์ฟกอล์ฟกลางแจ้งและในร่ม ที่มีข้อดี-ข้อเสียคนละแบบ ขึ้นอยู่กับว่าต้องการฝึกเพื่อเรียนกอล์ฟจริงจังและอยากได้ความเป็นส่วนตัวขนาดไหน หากต้องการแบบดังกล่าวการเลือกสนามไดร์ฟกอล์ฟในร่มจะค่อนข้างตอบโจทย์กว่า และควรควบคู่ไปกับการออกรอบกลางแจ้งเผื่อได้สัมผัสบรรยากาศจริงและดูพัฒนาการของตัวเองว่าองศาการตีลูกกอล์ฟนั้นเป็นอย่างไร รวมถึงอาจได้คำแนะนำจากคนอื่น ๆ ได้เช่นกัน ไดร์ฟกอล์ฟทั้ง 2 ประเภท จึงไม่ได้เป็นการฝึกซ้อมเรียนกอล์ฟที่แทนที่กันแต่ควบคู่เพื่อให้ประสิทธิภาพการตีดีขึ้น ส่วนพื้นที่ในการเลือกสนามไดร์ฟกอล์ฟควรเลือกที่ไม่ไกลจากบ้านหรือมีพื้นที่และบริการรองรับแบบครบครัน ส่วนใหญ่จะเห็นในพื้นที่ บางกะปิ คันนายาว สนามกอล์ฟ บางนา หรือจังหวัดใกล้เคียงอย่างสมุทรปราการ

สำหรับใครที่เบื่อการออกรอบแบบเดิม ๆ และรู้สึกว่าการไปไดร์ฟกอล์ฟทั้งทีควรต้องมีเพื่อน ๆ หรือครอบครัวไปทำกิจกรรมด้วยกันได้ แต่ด้วยประสบการณ์ในการตีกอล์ฟที่ต่างกันเป็นข้อจำกัดที่ทำให้ไปออกรอบด้วยกันไม่ได้ ลองมาเปิดประสบการณ์การตีกอล์ฟในร่มแบบใหม่ ที่ Topgolf Megacity กอล์ฟเอนเตอร์เทนเมนท์แบบจัดเต็ม

Topgolf Megacity กอล์ฟเอนเตอร์เทนในร่มขนาดใหญ่ โดยคุณและเพื่อน ๆ หรือครอบครัวสามารถจองเบย์ก่อนเล่น แต่ละเบย์สามารถรองรับผู้เล่นได้สูงสุดถึง 6 คน และ VIP เบย์ที่รองรับได้สูงสุดถึง 12 คน ทำให้การตีกอล์ฟที่นี่จะสนุกมากขึ้นกว่าเดิม เพราะที่นี่รองรับได้ถึง 102 เบย์ และบริการอื่น อาทิ 5 ร้านอาหาร บาร์เครื่องดื่ม รวมถึงห้องประชุม-สัมมนาที่เหมาะกับรูปแบบบริษัทที่ต้องการจัดเอาท์ติ้งอีกด้วย จุดเด่นของที่นี่คือไม่จำเป็นต้องมีสกิลในการตีกอล์ฟก็สนุกได้ เพราะนำเกมใช้ในการตีลูก เช่น เกม Angry Birds เทคโนโลยีที่นำมาใช้กับเกมจะทำให้การตีกอล์ฟสนุกมากยิ่งขึ้น 

อยากสัมผัสประสบการณ์ตีกอล์ฟที่สนุกและไม่เหมือนใครต้องทำอย่างไร?

1. ทำการจองล่วงหน้า
   ผ่านช่องทางออนไลน์หรือจองผ่านโทรศัพท์ ใครที่อยากวอล์กอินเข้าไปก็ได้เช่นกัน แต่หากเป็นกรณีที่เป็นกลุ่ม 6 คนขึ้นไป แนะนำให้จองล่วงหน้า
   
   
2. เช็กอินเตรียมพร้อม
   เมื่อถึงแล้ว สามารถเช็กอินกับเคาน์เตอร์ หากเบย์ยังไม่ว่างก็แวะจิบเครื่องดื่มที่บาร์และร้านอาหารที่มีบริการในนั้นได้เลย ยังมีมินิกอล์ฟให้เล่นรอได้อีกด้วย หากเบย์ที่จองไว้พร้อมแล้วจะได้รับข้อความทันที
   
   
3. เลือกเกมที่ต้องการ
   ที่เบย์จะมีเบย์โฮสต์ช่วยแนะนำการเล่นเบื้องต้น ทั้งกติกาและเกมทั้งหมด ซึ่งมีให้เลือกมากกว่า 14 เกม รับรองว่าสนุกได้ทุกเพศทุกวัย
   
   
4. เริ่มเล่นได้เลย!
   ที่นี่มีไม้กอล์ฟให้ใช้เล่นฟรี จะอัปเกรดไม้เป็นไม้ที่โปรขึ้น หรือใช้ไม้ของตัวเองที่เตรียมมาจากทางบ้านก็สามารถทำได้เช่นกัน วิธีเล่นโบกไม้กอล์ฟชี้เหนือเซนเซอร์เครื่องจ่ายลูก จากนั้นก็เริ่มและเล็งเป้าหมายตามเกมที่เลือกพร้อมหวดแล้วอวดคะแนนกันได้เลย อวดคะแนนได้เลย มีคำถามตรงไหนก็สอบถามเพลย์เมกเกอร์ของเราได้ตลอด
5.